เมื่อวาน(13 พ.ย.) กองกำลังอัล-กอสซัม ฝ่ายติดอาวุธของฮามาส เปิดเผยว่า ได้บอกกับกาตาร์ที่เป็นคนกลางในการเจรจาปล่อยตัวประกันว่า พวกเขาพร้อมที่จะปล่อยตัวประกันที่เป็นผู้หญิงและเด็กมากถึง 70 คนที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซา เพื่อแลกกับการที่อิสราเอลต้องหยุดยิง 5 วัน
อาบู อูไบดา โฆษกกองกำลังอัล-กอสซัม บอกว่า “สัปดาห์ที่แล้ว มีความพยายามจากพี่น้องชาวกาตาร์ในการปล่อยตัวประกันที่เป็นผู้หญิงและเด็ก เพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับการปล่อยตัวเด็กชาวปาเลสไตน์ 200 คน และผู้หญิง 75 คนที่ศัตรูควบคุมตัวไว้”
ฮามาสเรียกร้องสันนิบาตอาหรับออกมาตรการตอบโต้อิสราเอล
รพ. ที่ใหญ่ที่สุดในกาซาหยุดให้บริการ เหตุวิกฤตขาดแคลนเชื้อเพลิง
WHO เตือนสถานการณ์ รพ.ในกาซา “เลวร้าย-อันตรายอย่างยิ่ง”
เขาเสริมว่า “การหยุดยิงควรรวมถึงการหยุดยิงโดยสมบูรณ์ และอนุญาตให้มีการให้ความช่วยเหลือและการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมทุกที่ในฉนวนกาซา” และยังกล่าวหาอิสราเอลว่า “ผัดวันประกันพรุ่งและเมินเฉยต่อข้อเสนอของกลุ่ม”
ช่วงเย็นวานนี้ ยังมีคลิปวิดีโอหนึ่งปรากฏบนช่องโซเชียลมีเดียของกองกำลังอัล-กอสซัม โดยเป็นคลิปความยาวไม่ถึง 1 นาทีของหญิงชาวอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา แต่ถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
โดยช่วงแรกของวิดีโอแสดงให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งพูดหน้ากล้องเพื่ออ่านข้อความสั้น ๆ เธอให้รายละเอียดเกี่ยวกับพ่อแม่ บ้านเกิด และบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งบอกว่าเธอมีอายุ 19 ปี
หลังจากคำพูดดังกล่าว วิดีโอก็แสดงให้เห็นภาพของสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นศพของผู้หญิงรายนี้ ตามมาด้วยวิดีโอที่อ้างว่าเป็นการเสียชีวิตของเธอเกิดจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน
กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ออกมาชี้แจงโดยกล่าวว่า ครอบครัวของผู้หญิงคนดังกล่าวทราบถึงการมีอยู่ของวิดีโอนี้แล้ว ซึ่งตัวแทนกองทัพได้ไปเยี่ยมบ้านของครอบครัวเพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับวิดีโอ
“กลุ่มฮามาสยังคงใช้ความหวาดกลัวทางจิตใจและกระทำการที่ไร้มนุษยธรรมผ่านวิดีโอและภาพถ่ายของตัวประกัน เหมือนเช่นที่เคยทำในอดีต” ถ้อยแถลงของ IDF ระบุ
IDF ยังยืนยันตัวตนของผู้หญิงคนดังกล่าวว่าเป็นหนึ่งในทหารอิสราเอลที่ถูกจับไป โดยบอกว่า “เราขอส่งกำลังใจให้กับครอบครัวมาร์เซียโน ซึ่งลูกสาวของพวกเขา ‘โนอา’ ถูกลักพาตัวอย่างโหดร้ายโดยองค์กรก่อการร้ายฮามาส เราจะใช้ทุกวิถีทาง ทั้งด้านข่าวกรองและปฏิบัติการ เพื่อนำตัวประกันกลับบ้าน”
นี่เป็นครั้งแรกที่กองทัพอิสราเอลยืนยันตัวตนของตัวประกันอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่นักรบของกลุ่มฮามาสลักพาตัวผู้คนประมาณ 240 คนไปยังฉนวนกาซาเมื่อพวกเขาเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
ต่อมา IDF ยังรายงานอ้างข้อมูลข่าวกรองว่า ศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มฮามาส ซ่อนอยู่ข้างใต้โรงพยาบาลเด็กแรนติซี (Rantisi) ในเมืองกาซาซิตี และมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ตัวประกันที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมถูกควบคุมตัวอยู่ที่นั่น
IDF กล่าวว่า สิ่งที่พบภายในโรงพยาบาลเช่นกัน คือรถจักรยานยนต์ที่เชื่อว่ากลุ่มฮามาสใช้ระหว่างการโจมตี และมีอุโมงค์จากโรงพยาบาลที่เชื่อมต่อกับที่พักของผู้นำกลุ่มฮามาส
พ.ท.ปีเตอร์ เลิร์นเนอร์ จาก IDF กล่าวว่า “โรงพยาบาลถูกใช้เพื่อกิจกรรมการก่อการร้ายอย่างแน่นอนที่สุด นี่คือโรงพยาบาลที่เราขอให้มีการอพยพออกไปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีทั้งพลเรือนและผู้ก่อการร้ายหลบหนีออกจากโรงพยาบาล … และนำตัวประกันพร้อมกับผู้ก่อการร้ายออกจากบริเวณโรงพยาบาล”
เขาเสริมว่า “เราเจอมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งในโรงพยาบาล มอเตอร์ไซค์คันนี้มีรูกระสุนอยู่ในถังน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งดูเหมือนหนึ่งในมอเตอร์ไซค์ที่เราเคยเห็นในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม”
เลิร์นเนอร์บอกอีกว่า “นอกจากนี้เรายังพบอุโมงค์ที่ดูเหมือนเชื่อมบ้านของผู้ก่อการร้ายระดับผู้บัญชาการกับโรงพยาบาล ดังนั้นนี่คือเครือข่ายที่ไร้ความปราณีที่ทำให้ชาวกาซาตกอยู่ในความเสี่ยง นี่คือสิ่งที่เราพูดตลอด 38 วันที่ผ่านมา”
เขาเสริมว่า ผ้าคาดผม ผ้าอ้อม และขวดนมที่พบในโรงพยาบาล บ่งชี้ว่า เด็กและทารกซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มตัวประกัน อาจถูกจับอยู่ที่นั่นเช่นกัน
คำกล่าวอ้างดังกล่าวดูเหมือนจะสอดคล้องกับรายงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ที่ระบุว่า กลุ่มฮามาสมีหน่วยบัญชาการอยู่ใต้โรงพยาบาลอัล-ชิฟา โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา โดยใช้เชื้อเพลิงที่มีไว้สำหรับโรงพยาบาลดังกล่าว และนักรบของกลุ่มฮามาสก็รวมกลุ่มกันในและรอบ ๆ โรงพยาบาลเป็นประจำ
ข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) ที่ว่า กลุ่มฮามาสใช้โรงพยาบาลและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนในการซ่อนตัว
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า “คุณจะเห็นได้จากการรายงานแบบโอเพนซอร์สว่า กลุ่มฮามาสใช้โรงพยาบาล ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนอื่น ๆ จำนวนมาก ในการสั่งการและควบคุม จัดเก็บอาวุธ และเป็นที่อยู่อาศัยของนักรบ”
อิสราเอลยืนกรานว่า มีความชอบธรรมในการปฏิบัติการทางทหารรอบ ๆ โรงพยาบาลแห่งนี้ แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ ก็ตาม รัฐบาลอิสราเอลประกาศว่าได้สร้างทางเดินอพยพและเรียกร้องให้มีการเคลื่อนย้ายพลเรือนแล้ว แต่คนไข้และบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเลือกที่จะไม่อพยพออกมาเอง
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า “ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่สามารถพาผู้ป่วยออกจากที่นั่นได้ แทนที่จะปล่อยให้กลุ่มฮามาสใช้เป็นศูนย์บัญชาการก่อการร้าย ใช้เป็นที่ยิงจรวดใส่อิสราเอล ใชเป็นอุโมงค์ก่อการร้ายเพื่อสังหารพลเรือนชาวอิสราเอล”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เนทันยาฮูกล่าวเสริมว่า “อิสราเอลกำลังดำเนินการอย่างระมัดระวังเมื่อพูดถึงเรื่องโรงพยาบาล แต่เราจะไม่ให้ผู้ก่อการร้ายมีโล่คุ้มกัน”
ด้านกลุ่มฮามาสและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการ
ดร. มูนีร์ อัล-เบิร์ช อธิบดีกระทรวงสาธารณสุขฉนวนกาซา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่อัล-ชิฟาปฏิเสธคำสั่งอพยพของ IDF เพราะพวกเขากลัวว่าผู้ป่วยประมาณ 700 รายจะเสียชีวิตหากพวกเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่หมอ แต่อยู่ที่คนไข้ และหากพวกเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พวกเขาจะตาย และหากพวกเขาถูกย้าย พวกเขาจะตายระหว่างทาง นี่คือปัญหา เรากำลังพูดถึงผู้ป่วยประมาณ 700 ราย” อัล-เบิร์ชกล่าว
เรียบเรียงจาก CNN / Reuters / The Guardian
ภาพจาก AFP
ซูเปอร์คอมทำนายแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อม 20 อันดับ สเปอร์ส หลุดยาว
ครม.ไฟเขียวจ่ายเงินชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่
"ชิกิต้า" (CHIQUITA) เด็กไทยมาแล้ว! ทีเซอร์แรก BABYMONSTER นับถอยหลังเดบิวต์